วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฝึกทักษะการฟัง โดยบทเพลงที่มีชื่อว่า Cater 2 u ,Do somethin’

Learning Log 11
(13/10/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในยุคที่ภาษาอังกฤษมีความเฟื่องฟูนั้นได้มีการเกิดขึ้นของแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษและยังมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษทั้งในระบบและนอกระบบและยังมีสื่อการเรียนรู้อื่น ๆ อีกมากที่สามารถเสริมความรู้ทางด้านวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งโปรแกรมอินเตอร์ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ตได้มีการเปิดโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับทุกคนหรือทั่วไปที่มีความสนใจในเรื่องของวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทุกคนได้ฝึกฝนทักษะทางด้านภาษาอังกฤษที่หลากหลาย และดังนั้นเพื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีควรมีกลยุทธ์ในการเรียนทักษะภาษาอังกฤษด้วยทั้ง 10 องค์ประกอบเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเข้าใจและแท้จริง เพราะการเรียนรู้ภาษาที่ดีนั้นคือการฝึกพฤติกรรมการใช้ภาษาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จากข้อมูลแหล่งข้อมูลที่มีอยู่จนกระทั่งผู้เรียนสามารถนำทักษะที่ฝึกฝนมาใช้ได้จริงอย่างธรรมชาติและถูกต้องอย่างชำนาญ ดังนั้น ดิฉันจึงต้องมีการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อจะได้นำความรู้ ความสามารถมาใช้ในการเรียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ


วันที่  14/10/58 นั้นดิฉันได้เริ่มต้นจาก  การฝึกทักษะทางด้านการฟัง โดยดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการจากฟังเพลง  โดยบทเพลงที่มีชื่อว่า  Cater 2 u ชื่อศิลปิน : Destiny’s Child โดยชื่อเพลงนี้จะมีความหมายสั้น  ๆ  ว่า “จะดูแลคุณ” โดยความหมาย โดยรวมยอดเนื้อเพลงนี้จะมีอยู่ว่า ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อคุณจะเติมเต็มความสุขให้คุณทุกที จะมอบสิ่งที่ดีให้กับคุณ เพราะว่าฉันนั้นต้องการดูแลแฟนของฉัน ซึ่งต่อไปจะกล่าวถึงหลักการใช้ไวยากรณ์ (Grammar) ของบทเพลงนี้ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ในบทเพลงนั้น ส่วนมากที่เห็นได้ชัดเจนในประโยคคือเรื่อง Tense, Noun phrase ส่วนคำศัพท์โดยภาพของเพลงนี้เป็นคำศัพท์ที่เรารู้บ้างแล้ว ทำให้เราสามารถของเนื้อเพลงได้โดยที่ไม่ต้องเปิดดูความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรมภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยเพื่อหาความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรมภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยเพื่อหาความหมายของคำศัพท์นั้นๆ เลย
สำหรับความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายเพื่อน่ามาแปลความหมายในประโยค  ก่อนที่เราจะเข้าใจความหมายในประโยค ก่อนที่เราจะเข้าใจความหมายของบทเพลงนั้นเราจะต้องรู้จักความหมายของค่าเหล่านี้ก่อน มีคำศัพท์ดังนี้  cater (n) ดูแล ให้ความสุขความพอใจ , เอาใจใส่ proud (v)  ภูมิใจ  admire (v) ยกย่อง , ชมเชย reassure (v) ยืนยันใหม่, ทำให้แน่ใจอีกครั้ง desire (v) ต้องการ, ปรารถนา purposeless (v) สิ้นหวัง, ไร้จุดหมาย inspire (v) ตัดใจ, เป็นแรงใจ cufflinks (n) กระดุมข้อมือเสื้อ strings (n) เชือกผูก รองเท้า aspire (v) อยากได้, ปรารถนา, ต้องการ manicure (n) การทำเล็บ slippers (n) รองเท้าแตะ ซึ่งความหมายของคำศัพท์เหล่านี้จะต้องรู้จักหน้าที่ชนิดของค่าด้วยเพื่อจะได้แปลความได้ถูกต้องบริบทของเพลงและมีความไพเราะเมื่อผู้อ่านอ่านแล้วเกิดความประทับใจ
จากบทเพลงนี้  เราสามารถเรียนรู้เรื่องของ การเชื่อมเสียงการเชื่อมคำในประโยค หากเราฟังเพลงแล้วเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของค่าที่มีการเชื่อมค่าในประโยคนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ยกตัวอย่าง คำศัพท์ที่มีการเชื่อมคำในประโยคได้ ดังต่อไปนี้  I  wanna  let  you  know  I’m  proud. คำว่า wanna = want to แปลว่า ต้องการหรืออยากจะซึ่งประโยคนี้จะมีความหมายว่า อยากให้คุณรู้ว่าฉันภูมิใจ Baby I see you wrokin hard ซึ่งประโยคนี้มีค่าว่า workin ย่อมาจากคำว่า working ซึ่งแปลว่า ทำงาน ซึ่งสามารถแปลประโยคนี้ได้ว่า ที่รักฉันเห็นคุณทำงานหนัก I’II keep my hair fixed, keep rockin the hottest outfits ซึ่งประโยคนี้มีคำว่า rockin ย่อมาจากคำว่า rocking ซึ่งมีความหมายว่า แต่งตัว, ใส่ ซึ่งทั้งประโยคมีความหมายว่าฉันจะดูแลทรงผมและดูแลให้ใส่ชุดสวย ๆ
จากบทเพลงนี้ บทเพลงที่มีชื่อว่า Cater 2 U นั้น ดิฉันนั้นชอบเนื้อเพลงท่อนดังต่อไปนี้เป็นอย่างมาก เพราะฟังแล้วรู้สึกชอบและมีความหมายดี โดยเนื้อเพลงมีดังต่อไปนี้ The bad (Through the bad) The ups And downs. I’II still be here for you. Let me ceter to you Gause you’re beavtiful. I Love the way you are. Fulfill you every desire. Your wish is my command. I want to cater to my man. Your heart. So pure you love shines through. So much to me is you. I want to cater to my man จากท่อนเพลงดังกล่าว ดิฉันสามารถแปลความหมายได้ดังนี้ ทั้งเวลาที่ดีและไม่ดี ฉันก็ยังคงอยู่เคียงข้างคุณ ให้ฉันได้ดูแลคุณ เพราะว่าคุณมีจิตใจที่งดงาม  ฉันรักในสิ่งที่คุณเป็น ฉันจะเติมความสุขให้คุณเติมที่ ฉันต้องดูแลผู้ชายของฉันหัวใจของฉัน ความมืดสามารถนำพาเราผ่านไปได้ มากมายจริง ๆ ของฉันคือคุณฉันต้องการดูแลแฟนฉัน
                Some words and expression (คำศัพท์และสำนวน) ในส่วนนี้จะเป็นการกล่าวถึงเรื่องศัพท์หรือสำนวนต่าง ๆ ในบทเพลงนี้ที่สามารถเขียนรูปประโยคได้หลายรูปแบบแต่มีความหมายใกล้เคียงกับประโยคเดิม ซึ่งแปลความหมายได้ดังประโยคต่อไปนี้จะยกตัวอย่างประโยค เช่น let me pour out  my love letter มีความหมายประโยคเดียวกับคำว่า let me tell you how much I love yopu \with word มีความหมายว่าให้ฉันบอกคุณว่าฉันรู้สึกอย่างไร ประโยคต่อมาคือ turn the game on, มีความหมายเช่นเดียวกับ let’s begin มีความหมายว่าให้เราเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง help you put your do rag on มีความหมายใกล้เคียงกับ help dress you in your pajamas มีความหมายว่า ช่วยใส่ชุด I promise ya , I keep myself up มีความหมายใกล้เคียงกับ I promise you , I will always make you happy I will always be the best ความหมายว่า ฉันขอสัญญาว่าฉันจะทำให้คุณมีความสุขตลอดไป/ฉันจะทำตัวให้ดีที่สุดเสมอประโยคสำนวนสุดท้ายคือ rockin c the hottest ouffits) มีความหมายใกล้เคียงว่า wearing the most beautiful dress c clothes) มีความหมายว่า แต่งชุดสวย ๆ
                ต่อไปนี้จะเป็นการกล่าวถึงความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ (Grammar) ซึ่งประโยคต่อไปนี้จะเป็นหลักการใช้ไวยากรณ์ที่เกี่ยวกับ Tense ซึ่งประโยคมีดังต่อไปนี้ When I ask you. ใช้หลักการ Tense ใช้ present simple tense ในประโยค มีความหมายว่า เมื่อฉันถามเธอ I’ll brush you hair ใช้ Future simple tense มีความหมายว่า ฉันจะหวีผมให้ I wanna cater to you. ใช้ present simple tense มีความหมายว่า ฉันต้องการดูแลเธอซึ่งในหัวข้อ Grammar ต่อไปนี้ เรื่อง noun phrase ซึ่ง noun phrase จะมีความหมายว่า วลีที่ทำหน้าที่เหมอนคำนามจะเป็นได้ทั้งประธานและกรรมของประโยค  ยกตัวอย่างวลีดังต่อไปนี้ My life มีความหมายว่าชีวิตของฉัน ใช้โครงสร้างว่า Deterniner + noun phrase โครงสร้างประโยค claues นี้ Determiner + noun head.
ดังนั้น  ดิฉันสามารถสรุปประเด็นความรู้ที่ได้จาก Cater 2 U ซึ่งศิลปิน Destiny’s Child ได้ประเด็นความรู้ดังนี้ว่าการแปลความหมายของบทเพลง, ความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องประโยคที่มีการใช้หลักไวยากรณ์เรื่อง Tense และเรื่อง noun phrase และเรื่องต่อไปคือ  some word  and expression (คำศัพท์และสำนวน) รวมทั้งรวมไปถึงการฝึกทักษะการฟัง  ซึ่งเมื่อดิฉันฟังเพลง ดิฉันก็จะเริ่มมีการคุ้นชิ้นกับภาษาที่มีสำเนียง  น้ำเสียง การเน้นเสียง การเชื่อมคำในประโยคเพื่อที่จะทำให้ดิฉันฟังได้อย่างเข้าใจ ความหมายและคุ้นเคยกับภาษาและสำเนียงภาษาที่แท้จริงของเจ้าของภาษา ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันนั้น คือการฝึกภาษากับคุณครูภาษาอังกฤษที่สอน ภาษาอังกฤษ ในมหาวิทยาลัย  โดยดิฉันควรจำใช้ภาษาอย่างธรรมชาติพร้อมทั้งสำเนียงภาษาที่ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาอย่างใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้
วันที่  15/10/58 นั้นดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการฝึกทักษะการฟังโดยดิฉันฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลง โดยบทเพลงที่มีชื่อว่า Do somethin’ ชื่อศิลปิน Britnrey Spears โดยชื่อบทเพลงนี้จะมีความหมายสั้น ๆ ว่า ทำอะไรสักอย่าง โดยความหมายโดยรวมของเนื้อเพลงนี้จะมีอยู่ว่า คุณควรจะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เป็นไปตามความรู้สึกและตามความต้องการที่มีอยู่เพื่อโอกาสใหม่ ๆ ซึ่งต่อไปนี้จะกล่าวถึงหลักการใช้ไวยากรณ์ (Grammar) ของบทเพลงนี้ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ในบทเพลงนั้นส่วนมากที่เห็นได้ชัดเจนในประโยค คือ เรื่อง Tense, Noun phrase ส่วนคำศัพท์โดยภาพของเพลงนี้เป็นคำศัพท์ที่เรารู้บ้างแล้ว ทำให้เราสามารถของเนื้อเพลงได้โดยที่ไม่ต้องเปิดดูความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรมภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย เพื่อหาความหมายของคำศัพท์นั้น ๆ
สำหรับความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย เพื่อนำมาแปลความหมายในประโยค ก่อนที่เราจะเข้าใจความหมายของบทเพลงนั้นเราจะต้องรู้จักความหมายของคำเหล่านี้ก่อน มีคำศัพท์ ดังนี้ ready (adj) พร้อม truck (n) รถ clouds (n) เมฆ bass (n) เสียงเบสในดนตรี cash (n) เงิน/เงินสด feack (n) คนพิเศษหรือคนดัง grill (n) ข้างหน้า, ตะแกรงรด crew (n) เพื่อนหรือกลุ่มเพื่อน punk (n) คนเกเกร ซึ่งความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ดิฉํนจะต้องรู้จักหน้าที่ชนิดของคำด้วยเพื่อจะได้แปลความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ได้อย่างถูกตามบริบทของบทเพลงเพื่อก่อให้เกิดความไพเราะและสละสลวยของภาษา รวมทั้งเมื่อผู้อ่านอ่านแล้วเกิดความประทับใจ
จากบทเพลงนี้  เราสามารถเรียนรู้เรื่องของกาลเชื่อมเสียงการเชื่อมคำในประโยค หากเราฟังเพลงแล้วเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของค่าที่มีการเชื่อมคำในประโยคนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ยกตัวอย่างคำศัพท์ที่มีการเชื่อมคำในประโยคได้ดังต่อไปนี้ Whatehu gonna do when the croud goes ayo? คำเชื่อมเสียงในประโยค คือ Whatchu = what are you. แปลว่า คุณกำลัง...อะไร  โดยประโยคข้างต้นจะมีความหมายว่า คุณกำลังทำอะไรเวลาที่ฝูงชนตะโกนว่า อะไร (ayo) เหมือนอีกคำคือคำว่า gonna = gaing to แปลว่า จะ, กำลังจะ Why don’t you do somethim’? ประโยคนี้จะมีการเชื่อมคำ คำว่า  Something = something แปลว่า อะไรบางอย่าง เช่น ความหมายในประโยค ทำไมคุณไม่ทำอะไรสักอย่าง อีกประโยคนึงคือ ความหมายในประโยค  ทำไมคุณไม่ทำอะไรสักอย่าง อีกประโยคนึงคือ Why you sicndin’ on the wall? Stand in =standing แปลว่า ยืน ซึ่งประโยคนี้แปลว่า ทำไมคุณถึงไปอยู่บนกำแพง
ต่อไปนี้จะเป็นการกล่าวถึง expression (สำนวน) ซึ่งในบทเพลงนี้จะมีสำนวนที่สามารถเขียนรูปประโยคได้หลายรูปแบบแต่มีความหมายใกล้เคียงกับประโยคนึง ซึ่งสามารถประโยคได้ดังต่อไปนี้ เช่น So I can ride on the clouds = So I can have a wonderful time มีความหมายว่า ฉันสามารถจะมีความสุขได้ Care to buy me a seal? จะมีความหมายใกล้เคียงกับประโยค May I join you?  or May I sit woth you? ซึ่งจะมีความหมายดังนี้ว่า ให้ฉันฟังกับคุณด้วยนะ Don’t be a punk มีความหมายใกล้เคียงกับประโยค Don’t be a burden. มีความหมายว่า อย่างทำตัวเป็นภาระ I can call if you can
มีความหมายใกล้เคียงว่า I’m willing if your are. สามารถแปลความหมายได้ว่า ฉันตั้งใจถ้าคุณตั้งใจ  Like I’m  some kind of freak จะมีความหมายใกล้เคียงกับประโยค Like I’m someone who’s special or like I’m beautiful. สามารถแปลความหมายของประโยคดังนี้ เหมือนกับว่าฉันเป็นคนดัง/เหมือนกับว่าฉันเป็นคนพิเศษ Only rock on what’s real มีความหมายใกล้เคียงกับประโยค Only be honest and truthful มีความหมายว่า เพียงทำตามสิ่งที่เป็นจริง/เพียงเป็นคนซื่อสัตย์และจริงใจ
ต่อไปนี้จะเป็นการกล่าวถึงความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ (Grammar) ซึ่งประโยคต่อไปนี้จะเป็นหลักการใช้ไวยากรณ์ที่เกี่ยวกับ Tense ซึ่งประโยคมีดังต่อไปนี้ Do you feel this ใช้ present simple tense มีความหมายว่า เธอรู้สึกอย่างนี้ใช่หรือไม่ I don’t think so ใช้ present simple tense มีความหมายว่าฉันไม่เห็นด้วยนะ what chu gonna do ใช้ present continuous tense หมายความส่า คุณกำลังจะทำอะไร Why (are) you standin on ใช้ present continuous. มีความหมายว่า  ทำไมคุณถึงไปอยู่บนนั้น
ดังนั้น ดิฉันสามารถสรุปประเด็นความรู้ที่ได้จากบทเพลง Do somethin’ ชื่อศิลปิน Britney Sperars ได้ประเด็นความรู้ดังนี้ว่า การแปลความหมายของบทเพลง ความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องประโยคที่มีการใช้หลักไวยากรณ์ เรื่อง Tense รวมถึงเรื่อง expression (สำนวน) รวมทั้งเรื่องของการฝึกทักษะการฟัง ซึ่งเมื่อเราฟังเพลง เราก็จะเริ่มมีการคุ้นชินกับภาษาที่มีสำเนียง น้ำเสียง  การเน้นเสียง การเชื่อมคำในประโยคเพื่อที่จะทำให้ดิฉันฟังได้อย่างเข้าใจความหมายและคุ้นเคยกับภาษาและสำเนียงภาษาที่แท้จริงของเจ้าของภาษา
วันที่  16/10/58  ดิฉันได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับวรรณคดีอังกฤษ โดยบทที่ดิฉันอ่านนั้นชื่อว่า Twentieth-Century Novels โดยจะมีนักแต่งนิยายในศตวรรษที่ 20 จำนวน 11 คน  โดยมีชื่อว่า E.M. Forster , H.G. well, Somerset Mangham, D.H.Lawraence, James joyce, William golding, George orwell, Arthur c. clark, Jopeph Conrad, Robert Louis Stevenson, Thomas hardy. ซึ่งนักแต่งนึงนิยายทั้ง 11 คนนรี้ จะมีลักษณะของการเขียนนวนิยายที่แตกต่างกันจนทำให้เกิดงานเขียนนวนิยายที่น่าสนใจมาให้อ่านจนน่าประทับใจจนถึงปัจจุบัน ซึ่งศตวรรษที่ 20 นี้จะเป็นรูปแบบการเขียนที่มีรูปแบบของการสะท้อนสภาพสังคมแบบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากช่วงสงครามโลก
E.M. Forster takes a completely different view of the values which formed and governed british society at that time and on  whioh the british empire was based. E.M. Forster จะมีความแตกต่างทางด้านมุมมอง แต่จะให้ความสนใจในความรู้สึกส่วนตัว, วัฒนธรรมจิตวิญญาณ โดย E.M. Forster จะแต่งเรื่อง Howard’s End เรื่องนี้จะเป็นความแตกต่างทางด้านความเชื่อของครอบครัว โดย Foster’s theme is how to connest the everyday ‘outer’ life of the wilcoxes with the innor life of the heart and spirit represented by the Schlegels. โดยลักษณะเด่นของ  Fonster คือ ชีวิตภายนอกและชีวิตของาภายในจิตใจ
Forstrt’s theme, here as well, is the importance of bringing togerher opposites (in societies, different people and within one oharacter) to make a complete and healthy, มีความหมายว่าลักษณะของการเขียนของ Forater คือ จะเอาความสำคัญของความแตกต่าง (สังคม, คนแตกต่าง, และตัวละครที่สมบูรณ์ ตัวละคร 1 ตัว นั้นจะมีความแตกต่างกันในตัวเองโดยแต่งเรื่อง A Passage to India โดยจะมีเรื่องย่อว่า Adela ,an Englishwoman who has gone to hdians, but is led to believe that one of them attaks her sexusally on a visit to come caves. When she accused him and later takes back the accusation’ she causes the separation in beliefs, behavior and attitudes of the English from the Indians to become cven strong er and more violent โดยเรื่องย่อนี้มีอยู่ว่า Adela เป็นผู้หญิงชาวอังกฤษผู้ซึ่งจะเดินทางไปอินเดียเพื่อแต่งงบานกับคนรัก ผู้หญิงคนนี้มอบความจริงใจให้กับทุกคนในประเทศอินเดีย แต่เธอจีนถูกชาวอินเดียข่มขื่นทำให้คนอังกฤษมองคนอินเดียไม่ดี
H.G.Wrlls also took characters from a lower social level , but many of his characters are given a chance of happiness จะมีลักษณะของตัวละครที่ต่ำ แต่มีความหลากหลายของตัวละครที่มีโอกาสของความสุข โดย H.G.wells จะมีชื่อนวนิยายว่า The War of the worlds descrives an attack on his this world by man from Mars, who can conquer everything but man’s diseases. โดยมีเรื่องย่อว่า จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสงครามโลกแต่มีเรื่องของมนุษย์ดาวอังคารซึ่งจะชนะทุกอย่างบนโลก ยกเว้นความละเมิบของมนุษย์ซึ่งเรื่องต่อไปนี้คือเรื่อง The first Men on the moon (1901) show men flying to the moon about seventy years before this actually happened โดยมีเรื่องย่อสรุปความได้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่แสดงถึงผู้ชายทิ่บินไปเหยียบดวงจันทร์ ก่อน 10 ปี ก่อนนี้ที่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง
Somerset Maugham’s first novel, Lisa of Lambeth gave a realistic picture of slum life and the novel based on his oen life, of Human Bondage (1915) showed the hardship and difficulty of his own early life มีความหมายโดยสรุปใจความได้ว่า นวนิยายเรื่องแรกของ Somerset Maugham คือ Lisa of Lambeth จะเป็นนวนิยายที่มองเห็นภาพในเรื่องของชีวิตที่น่าสงสารโดยจะใช้การเขียนเรื่องราวชีวิตของตนเองเป็นพื้นฐาน อีกเรื่องนึงคือเรื่อง Of human Bondaqe (1915) โชว์ความลำบากและความยากลำเค็ญของชีวิตของเขาโดยสรุปลักษณะการเขียนของ Maugham ได้ดังนี้ว่า Maugham is a sharp observer of people, and is amused by them, but does not want to get closely involved with them. He wants to tell good stories rather than to explore character deeply, and stories often have a bitter of un expected ending. โดยสรุปได้ว่า Maughom จะเป็นนักสังเกตการณ์ที่เฉียบคม เน้นเรื่องราว, เนื้อหา, ตัวละครไม่ซับซ้อนและส่วนมากเรื่องนวนิยายเรื่องนี้จะเป็นเรื่องมักจะมีตอนแบบข่มขื่นหรือจนแบบไม่คาดฝัน
D.H.Lawrence’s view of the writer’s purpose was very different : He felt was the novelist’s jobs to show how an individual’s view of his own personality wam often affected by conversation of language โดยสามารถสรุปได้ว่า Lawrence มีการเขียนลักษณะที่แตกต่างโดยมักจะเอาชีวิตของตัวเองมาเขียนในการเขียนภาษาในการสนทนา เขาเขียนนวนิยายเรื่อง Son and lover (1913) is take from his own life เขาน่าชีวิตของเขาเองมาเชียนเรื่องนรี้ The center of  novel is the relationship between Paul Merel need to put the outer and inner world together in a true relation ซึ่งลักษณะตัวละครจะคล้ายกับของ Forster คือ ร่างภายนอกและภายในเข้าด้วยกันในความสัมพันธ์แท้จริง
James joyce worte A Portrait of the Artist as a young man (1916) present Joyce himself as a young man in the charaoter of his hero. Stephen Dedalus, who is formed by the powerful forces of Irish national, political and religious feeling and shows how he gradually to follow his own nature and his own anure and his own. Fate. โดยสรุปได้ว่า joyce เขียนเรื่อง A Portrait of the artist as a young men. โดยเรื่องนี้ จะเป็นการเขียนโดย Stephen dedalus นั้นจะเป็นตัวละครที่คล้ายกับชีวิตของ Joyce ความรู้สึกของศาสนาและการเมืองเขาค่อย ๆ ปลดปล่อยจากอิทธิพลของกองกำลังเหล่านั้นให้เป็นไปตามธรรมชาติและชะตากรรมของเขาเอง มีอีกเรื่องนึกคือเรื่อง Ulysses (1922), Joyce created a completely new style of writing This style is known as ‘interior’ monologue’ of stream of consciousness. เรื่อง Ulyness เป็นเนื้อเรื่องยาวจะเป็นสไตล์การเขียนแนวกระแสสำนึก ซึ่งงานเขียนแบบนี้จะเป็นงานเขียนแบบใหม่ล่าสุดของศตวรรษ
William Gloding wrote Lord of the files (1954), when describes how a group of English school boys. They are divided into two groups those who guard the fire (the deamer and poets) and those who hunt for good (the men of action) and the novel shows how the two froups cannot work together for a good of them all, but attack and try to destroy each other with frightening violence. His novels also consider absolute values of good and avil and the essential nature to man. โดยสามารถสรุปความหมายได้ว่า dolding เขียนนวนิยายเรื่อง Lord of the flies เป็นการเล่าเรื่องถุงกลุ่มนักเรียนรชายที่มี 2 กลุ่ม กลุ่มนึงเป็นนักฝันอีกกลุ่มนึงเป็นผู้กระทำ ซึ่งนวนิยายเรื่องนี้จะแสดงถึง 2 กลุ่มที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ร้ายความดีทั้งหมด แต่จะเป็นการโจมตีและพยายามทำลายด้วยความรุนแรงกับสู่ความโหดร้าย นวนิยายของเขาจะมีคุณค่าของความดีและความชั่วร้ายและนี่คือความจริงของมนุษย์
วันที่  17/10/58 ดิฉันได้อ่านเรื่องวรรณคดีอังกฤษต่อจากเมื่อวานโดยสามารถสรุปประเด็นความรู้ที่ได้ดังต่อไปนี้ โดยเริ่มจาก George orwell worote political and critical writing. Nineteen Eighty Four (1949) describes a future wotld where every word an acfion is seen and controlled by state, which has developed a kind of television that can watxh people in their own homes, ซึ่งสามารถสรุปความได้ว่า orwel เขียนเกี่ยวกับงานวิจารณ์การเมือง ซึ่งจะเขียนเรื่อง Nineteen Eighty Four เขียนในปี 1949 จะอธิบายได่ว่า  โลกอนาคตซึ่งถูกค่าที่แสดงออกมาและถูกควบคุมโดยรัฐ, ซึ่งมีการพัฒนา ซึ่งประชาชนรับชมได้ที่บ้าน และมีการเปลี่ยนแปลงภาษาอีกเรื่องนึกของ Orwell คือ Animal Farm (1945) tells the story of a political revolution that went wrong. The animals on a farm, led by the pigs, drive out their master Jones and take control of the farm, but the purity of their political  ideas is soon destroyed, and they farmes whom they drove ovt ซึ่งจะมีความหมายโดยสรุปสั้น ๆ คือผู้นำมักจะเป็นผู้กอบโดยผลประโยชน์ตจ่าง ๆ คือหากใครได้เป็นผู้นำคนนั้นมักจะมีความเห็นแก่ตัว
นวนิยายเชิงวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายข้อความโดยสรุปได้ว่าการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยจะมีหลักสำคัญ 3 ประการ ดังนี้  1. The  dander to man and the possibility of destryctuition if present scientific of technological developments are carried futher สามารถสรุปได้ว่า ความอันตรายที่มีมนยุษย์และความเป็นไปได้ของการทำลาย ถ้าหากการพัฒนาทางด้านวิทย์, เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปจะมีผลกระทบต่อมนุษย์ 2. what may happen after man has defeated the problems of war, disease and poverty-that man may be able to go beyond the limits of the human body and gain some of the qualities of machines สามารถสรุปได้ว่า สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นของโรคและความยากจนของผู้จน ซึ่งมนุษย์นั้นอาจจะสามารถมีข้อจำกัดของร่างกายและการได้รับจากผลิตออกมาแล้วอาจจะควบคุมด้วย 3. Although man may have lost something of nature life on earth (as in second are above), he can explore the world of space สามารถสรุปได้ว่าถึงแม้ว่า ความสูญเสียบางอย่างบางสิ่งในธรรมชาติของโลกใบนี้เขาสามารถสำรวจอวกาศได้
ARTHUR, C. clark has also written much science fiotion, including The city and the stars (1957) A space Odyssey (1968) which takes up the subject of exploration in space. ซึ่งสามารถสรุปความได้ดังนี้ Arthur c. clark จะเป็นนักเขียนที่มีสไตล์การเขียนแนววิทยาศาสตร์ โดยจะแต่งนวนิยายเรื่อง The city and the stars และเรื่อง A space odyssey ซึ่งมีการสำรวจด้านในข้างอวกาศ
Joseph Conrad wrots Lord Jim (1900) one of his greatest novels. He believed that a man must always be faithful to his friends, his fellows and his employers. If there is no faithfulness between man and man, ruin is certain to follow. ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า Jospeph conred แต่งนวนิยายเรื่อง Lord Jim เป็นนวนิยายที่ดีที่สุดของเขา เขามีความเชื่อว่า ความซื่อสัตย์ของเพื่อนเขาที่เพื่อนเขามีต่อนายจ้าง ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ต่อความพินาศก็จะตามมาอย่างแน่นอน
Robeart lovis Stevenson. Wte Treasure Island (1883) is an adventure story which is still popular. The strange case of Dr.Jekyll and Mr.Hyde is exciting novel the reads follows the struggle between two farms. Of the same men – the good Fr…Jekyll. And the evil Mr.Hyde. ซึ่งสามารถสรุปความได้ว่า Robert lovis Stevenson เขียนเรื่อ งTreasure Island เป็นเรื่องแนวผจญภัยที่เป็นที่นิยมจนถึงสมัยนี้ และเรื่อง The Strange case of Dr. Jekyll and Mr.Hyde. เป็นนวนิยายแนวสีร้างความตื่นเต้นที่ผู้อ่านติดตามระหว่างความดีของ Fr.Jekyll และความร้ายกาจของ Mr.Hyde.
Thomas hardy write novels nutura plays an important part; indeed nature is herself a character. Heardy’s scenes are set in ‘wessex’ (the country of Dorset) among tree, farm, fields and low hills. Hardy believed that the past has buill up a mass of conditions which remain to intluence people’s live : ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ว่า Thomas hardy เขียนนวนิยายแนวรักธรรมชาติมีฉากธรรมชาติที่แท้จริง  ธรรมชาติที่แท้จริงนั่นคือตัวละคร ทางที่ดีของชีวิตคือการรับต่อโชคชะตา  การต่อสู้ดินรนที่โชคชะตาและโอกาส
ดังนั้นสามารถสรุปประเด็นความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Twentieth-century novels โดยจะมีนักแต่งนวนิยายในศตวรรษที่ 20 มีจำนวน 11 คน โดยมรชื่อว่า E.M.Lareaence, James joyce, William golding, Somerset Mangham, E.M. Forster, George orwell, Arthur c. clark, Joseph Conrad, Robert Louis Stevenson, Thjomas hardy ซึ่งนักแต่งนวนิยายสมัยนี้นั้นจะเป็นรูปแบบการเขียนที่มีรูปแบบของการสะท้อนภาพสังคมแบบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น