สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
Learning Log 7 ( 22.09.58 )
·
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
การแปลงานแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยนั้น
มีความจำเป็นที่ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับ ไวยากรณ์ (Grammar) ซึ่งวิชาภาษาอังกฤษนั้น
ไวยากรณ์นั้นเปรียบเสมือน กระดูกสันหลังที่เป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ
ซึ่งการแปลประโยคให้มีภาษาที่สละสลวยได้นั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ conditional
sentence (ประโยคเงื่อนไข )
เพราะการแปลประโยคเงื่อนไขให้มีภาษาที่สละสลวย
ภาษที่ชัดเจนนั้น ดั้งนั้นเราต้องรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของประโยคเงื่อนไข
และมีกี่แบบโดยทั่วไปของประโยคเงื่อนไขในภาษาอังกฤษ เราจะสามารถนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องประโยคเงื่อนไขเชื่อมโยงการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
ที่ควรแปลให้ดี
และเมื่อแปลออกมาแล้วจะได้ภาษาที่สละสลวย
และผู้อ่านสามารถอ่านแล้วเกิดความประทับใจในการอ่านการแปลชิ้นนั้นอย่างมีความสุขในการอ่านและมีความประทับใจ
ดังนั้นสิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนประโยคเงื่อนไข (conditional
sentence )สามารถสรุปใจความสำคัญและประเด็นความรู้ที่เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกับการแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย
ประโยคเงื่อนไข (conditional sentence ) จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็น if – clause
และส่วนที่เป็น main-clause โดยทั่วไปประโยคเงื่อนไข
ในภาษาอังกฤษจะแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ๆ ดังนี้
และมีโครงสร้างประโยคสามารถสรุปได้ ดังนี้
-
Present real มีโครงสร้างประโยค คือ If + Present tense verb
, will / may / can + V.
เป็นการกล่าวถึงการมีเงื่อนไขว่าจะเกิดจริงในอนาคต
ต่อไปคือ
-
Present unreal มีโครงสร้างประโยค คือ If + Past tense verb , would / might / could + V.
เป็นการกล่าวถึงเงื่อนไขที่ถูกจำกัดให้เกิดขึ้นเป็นเพียงความคิด
ความฝัน หรือ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้
และประเภทสุดท้าย คือ
-
Past
unreal มีโครงสร้างประโยคคือ
If + Past
Perfect tense verb , would have + V.ed
เป็นการกล่าวถึงประโยคเงื่อนไขที่เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแล้วในอดีต
ไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์นั้นได้อีก เป็นได้เพียงแค่ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง
ในการแปลประโยคเงื่อนไขในภาษาไทย
ผู้แปลนั้นจะต้องมีการวิเคราะห์ความหมายของประโยคให้ดี
ว่าเป็นเงื่อนไขแบบใด และเลือกใช้รูปแบบในภาษาอังกฤษให้เหมาะสม เช่น โครงสร้างประโยคของ
-
Present real
If you
fly ecomomy class to the US with our airline this month, you will get a special 30 % discount
ซึ่งสามารถแปลความหมายได้ว่า
ถ้าคุณบินชั้นประหยัดไปยังสหรัฐอเมริกา กับสายการบินของเราในเดือนนี้
คุณจะได้รับส่วนลดพิเศษในส่วนของ
-
Present unreal
If Bangkok had a better public transportation
system. The traffic
problem would not
be this critical
ซึ่งสามารถแปลประโยคมีความหมายว่า ถ้ากรุงเทพฯ มีระบบส่งมวลชนที่ดีปัญหาจราจรก็คงไม่วิกฤตเท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ต่อมา
-
Past unreal
If it
has not been for the selfish
of the owner of the Royal
Plaza Hotel , hundress of people would not have been killed and injured.
ซึ่งสามารถ
แปลประโยคได้ความหมายดังนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของเจ้าของโรงแรม รอลยัล
พลาซ่าแล้วล่ะก็คนนับร้อยๆคงไม่ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ต่อไปนี้เป็นการทำแบบฝึกหัดเพื่อฝึกทักษาการแปลและความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างประโยคเงื่อนไข
โดยมีแบบฝึกหัด 10 ข้อ คร่าวๆได้ดังนี้
1.
If
I were she , I would go to work upcountry. Present unreal
สามารถแปลความหมายได้ว่า ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไปทำงานที่ร้านชนบท
2.
If
it rains , I
will not go shopping. Present real
สามารถแปลความหมายได้ว่า ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปช้อปปิ้ง
3.
If
he had not had a cancer . he not would committed
suicide last month. Past unreal
สามารถแปลความหมายได้ว่า ถ้าเขาไม่เป็นมะเร็ง
เขาจะไม่ฆ่าตัวตายเมื่อปีที่แล้ว
4.
If
you have toothache often, you
should go to
see a dentist. Present real
สามารถแปลความหมายได้ว่า ฉันปวดฟันบ่อย
ฉันควรไปหาหมอฟัน
5.
If
I had enough money , I would marry my girlfriend, but right now ,I am
very poor. Present Unreal
สามารถแปลความหมายได้ว่า ถ้าฉันมีเงินเพียงพอ ฉันจะแต่งงานกับแฟนของฉัน
แต่ตอนนี้ฉันจนมาก
6.
If you want to
make merit, I recommend that you donate the money to the Saijaithai
foundation. Present real
สามารถแปลความหมายได้ว่า ถ้าเธอต้องการทำบุญ
ฉันแนะนำให้เธอบริจาคเงินให้กับมูลนิธิสายใจไทย
ต่อมาจะเป็นการเรียนรู้โดยแลกเปลี่ยนความรู้ที่มี โดยให้นักเรียนแต่งประโยคเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน
แล้วนำประโยคออกมานำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้
โดยสามารถสรุปประโยคพร้อมทั้งแปลความหมาย ได้ดังนี้
If you
have headache often, you should go to hospital. โดยใช้ โครงสร้างประโยค Present
real
โดยมีโครงสร้างประโยค คือ If present simple + S. + should ,will และสามารถแปลความหมายของประโยคนี้ได้ความว่า ถ้าคุณปวดหัวบ่อยๆครั้ง คุณควรจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล และอีกหนึ่งประโยค คือ
If I had
a lot of
money, I would go to travel London.
ซึ่งประโยคนี้แปลความหมายได้ว่า ถ้าฉันมีเงินมากมาย
ฉันจะเดินทางไปเที่ยวที่ลอนดอน
ซึ่งประโยคนี้เป็นประโยคเงื่อนไขแบบ Present unreal ซึ่งมีโครงสร้างประโยคเงื่อนไข
คือ If + Past tense Verb + would / might / could + V.
ดังนั้น
สามารถสรุปความรู้เกี่ยวกับประเด็นเงื่อนไข ( conditional
sentence ) ซึ่งประโยคเงื่อนไขนี้จะเป็นประโยคความซ้อนแบบ
complex sentence เพราะ If cause ไม่สามารถอยู่แบบโดดเดี่ยวได้ ซึ่งสามารถจัดประเภท If cause ได้ทั้งหมด 3 ประเภท คือ
-
Present real มีโครงสร้างประโยค คือ If + Present tense verb
, will / may / can + V.
เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่สามารถเป็นไปได้
-
Present unreal มีโครงสร้างประโยค คือ If + Past tense verb , would / might / could + V.
ซึ่งประโยคเงื่อนไขนี้จะเป็นการกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คล้ายๆกับการสมมติที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ทั้งในอดีตและอนาคต
เป็นเพียงความคิด
สุดท้ายคือ
-
Past
unreal
มีโครงสร้างประโยคคือ If + Past Perfect
tense verb ,
would have + V.ed
ซึ่งโครงสร้างของประโยคเงื่อนไขนี้จะเป็นเหตุการณ์สมมติที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้วในอดีต ไม่สามารถกลับไปแก้ไขเหตุการณ์นั้นได้อีก
และเราสามารถนำความรู้เกี่ยวกับประโยคเงื่อนไขมาเชื่อมไปสู้การแปลที่ดี
เพราะจะทำให้เราได้ผลงานการแปลที่ดีและถูกต้อง มีการเรียงลำดับการแปลได้ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น