The Passive (1/02/2559)
(กรรมวาจก)
การแปลขั้นสูงนั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยความแม่นยำและถูกต้องตามหลักโครงสร้างไวยากรณ์
ซึ่งการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษจะมีความยากมากกว่าการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
เนื่องจากภาษาไทยนั้นจะมีการใช้คำและสำนวนที่มีความหลากหลายทางภาษามากกว่าภาษาอื่นๆ
ซึ่งคำในภาษาไทยเมื่อนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาที่ไพเราะส่วนมากจะเป็นการแปลโดยใช้
The passive หรือที่เรียกกันว่า กรรมวาจก
เพราะว่าเมื่อใช้แล้วจะทำให้ความหมายมีความความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสามารถอธิบายเรื่อง The passive
อย่างละเอียดตามโครงสร้างหลักไวยากรณ์
รูปแบบประโยคของ
The passive นั้นมักจะมาจาก Active ซึ่งจะมีความแตกต่างกันนั่นคือ ในรูปแบบ active จะให้ความสำคัญกับประธาน
(Subject) ในฐานะผู้กระทำกิริยาในประโยค ขณะที่รูปแบบของ
The passive นั้นประธานของประโยคเป็นฝ่ายถูกกระทำ
โดยจะมีโครงสร้างประโยคในแบบ active และ passive ดังนี้ Active; Subject + Verb + Object ส่วนของ The
passive; object ในประโยค active + verb to be + verb (by +
subject ในประโยค active) ส่วนในรูปของ Passive
ของประโยคจะมี verb to be จะผันตาม Tense
ของ Active จะมีความหมายคล้ายกับภาษาไทยว่า
ถูก หรือ ได้รับ
ประโยคในรูปแบบ The passive นั้นจะใช้เมื่อมีกรณี ดังต่อไปนี้ ได้แก่ 1. เราไม่สามารถสื่อข้อความหรือความหมายออกมาในรูป active ได้อย่างชัดเจน 2. เราต้องการให้ความสำคัญกับประธาน Subject
ของประโยคในฐานะผู้ถูกกระทำหรือรับผลจากการกระทำของกริยาที่มีอยู่ในประโยค
3. เราต้องการความหลากหลายในการใช้ภาษาอังกฤษ
ต่อมาจะเป็นวิธีการเปลี่ยนประโยค active เป็น passive
มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. ดูส่วนประกอบในประโยค active คือต้องมีประธาน +
กริยาที่ต้องการกรรม + กรรมและส่วนขยาย 2.
ดูว่าประโยค active อยู่ใน Tense ใด 3. ย้ายกรรมในประโยค active มาเป็นประธานใน passive 4.เปลี่ยนรูปกริยาในประโยค active
เป็น passive คือมี verb to be ตามด้วย v3 เราจะใช้
verb to be ตัวใดให้สังเกตที่ประธานในประโยค passive และ tense ของประโยค แล้วใส่คำว่า by ในประโยค passive 6. นำส่วนขยายหรือ modifier
มาใส่ไว้ท้ายประโยคในกรณีที่ประโยคนั้นมีส่วนขยาย
ต่อมาจะกล่าวถึง
การเปลี่ยนประโยค active ที่มี tense
ต่างๆกัน ให้เป็นประโยค passive จะมีรูปแบบดังโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
John
is helped by
Mary
John is
being helped by
Mary
John has been helped by Mary
John
was helped by
Mary
John
was being helped by Mary
John
had been helped by
Mary
John
will be helped by Mary
John
is going to be
helped by Mary
John
have been helped by Mary
ส่วนในกลุ่มของกริยาช่วยนั้นจาก active ไปเป็น passive จะมีดังต่อไปนี้
ในส่วนนี้คือ active กริยาช่วยจะ +V.1 (ไม่ผัน) แต่ในส่วนของ passive จะเป็นกริยาช่วย
+ be + V3 ทันที ส่วน adverb of frequency + กริยาช่วยตัวที่สอง + V3 ในประโยค
Passive ให้วาง adverb of frequency หลังกริยาช่วยตัวแรกเสมอ
มาว่าจะเป็นกริยากี่ตัวก็ตาม และในส่วนของ adverb of manner ให้วางไว้หน้ากิริยาช่องที่
3
สุดท้ายนี้จึงสามารถสรุปได้ว่า
ประโยคในรูปแบบ The passive
นั้นจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีกรณี ดังต่อไปนี้ ได้แก่ 1.
เราไม่สามารถสื่อข้อความหรือความหมายออกมาในรูป active ได้อย่างชัดเจน
2. เราต้องการให้ความสำคัญกับประธาน Subject ของประโยคในฐานะผู้ถูกกระทำหรือรับผลจากการกระทำของกริยาที่มีอยู่ในประโยค
3. เราต้องการความหลากหลายในการใช้ภาษาอังกฤษ
ต่อมาจะเป็นวิธีการเปลี่ยนประโยค active เป็น passive ซึ่ง The passive นั้นเมื่อเลือกใช้ในภาษาอังกฤษได้นั้น
จะทำให้ภาษาที่เกิดขึ้นในงานแปลนั้นจะเป็นภาษาที่สละสลวย ไพเราะ
และง่ายต่อการอ่านแล้วเข้าใจง่ายและจะทำให้ความหมายมีความความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น