Learning Log 1
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
การเรียนรู้ที่ดีนั้นจะต้องมีขั้นตอนวิธีการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนจึงมี
I + 1 = comprehensible input
ทฤษฎีข้างต้นนี้เป็นการสอนแบบนี้คือการป้อนข้อมูลเพื่อให้นักเรียนเข้าใจนั่นคือการที่คุณต้องทราบความรู้เดิมของนักเรียน
แล้วนำความรู้เดิมของนักเรียนมาพัฒนาโดยวิธีการสอนของครูโดยการเพิ่มระดับความยากของเนื้อหาที่จะสอนเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ในสิ่งที่ยากกว่าจะทำให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น
วิชาการแปล 1 จึงนำหลักการเรียนรู้ดังกล่าวมาประยุกต์ในการเรียนวิชาการแปลซึ่งเป็นรายวิชวิชาที่มีเนื้อหาค่อนข้างยากและมีความซับซ้อนทางภาษา
ซึ่งต้องมีพื้นฐานของไวยากรณ์ที่เพียงพอเพื่อนำมาต่อยอดความรู้ของการแปล
เพราะการแปลนั้นมีความหลากหลายทางหลักการเช่น กาล (tense )ซึ่งแต่ละ
tense จะมีหลักการใช้และมีความหมายของการแปลและมีวิธีของการแปลที่ไม่เหมือนกัน
และมีเรื่องของระดับภาษา ซึ่งผู้แปลบางคนใช้ภาษาทางการ ผู้แปลบางคนใช้ภาษาทั่วไป เพื่อให้ได้ใจความ
และสามารถใช้คำได้หลากหลายเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจโดยที่ความหมายของประโยคนั้นไม่เปลี่ยนแปลงยังคงมีความหมายเหมือนเดิม
แตกต่างกันเพียงแค่ ความไพเราะของระดับภาษา
ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษนั้นมีความละเอียดแตกต่างกันมาก
ดังนั้นการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยจะต้องคำนึกถึงการเลือกใช้คำให้ถูกต้องและภาษาให้ตรงตามหลักไวยากรณ์เพื่อให้ได้เพื่อให้อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ง่ายและอย่างถูกต้องที่สุด
สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้นอกชั้นเรียน
การแปลที่ถูกต้องเพื่อที่จะให้ผู้อ่านเข่าใจได้ดีและมีความสุขในขณะที่อ่านนั้นจะต้องมีลำดับขั้นตอนของการแปล
ดังนี้
การแปลบทความหรือหนังสือนั้นเราจะต้องมีเชี่ยวชาญในทั้งสองภาษาแล้ว
นอกจากนั้น ก่อนจะเริ่มแปล เราควรจะอ่านต้นฉบับให้จบก่อน
เพื่อที่จะเข้าใจจุดมุ่งหมายของผู้เขียนเพื่อที่จะได้แปลอย่างตรงจุดมุ่งหมายไม่มีความหมายที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
โดยการแปลนั้นจะต้องใช้ระดับภาษาที่ถูกต้องและเหมาะสมนำมาเรียบเรียงข้อความภาษาไทย
ซึ่งการเรียบเรียงความหมายของการแปลนั้นหากใช้หลักไวยากรณ์ไทยและสำนวนไทย จะสละสลวยกว่าการเน้นไวยากรณ์และสำนวนของภาษาอังกฤษ
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า
การแปลนั้นเป็นผลงานที่เราจะต้องใช้ความรู้ทั้งสองภาษา
ซึ่งตัวเราเองจะต้องมีความถนัดในภาษาที่จะใช้ในการแปล
เพื่อความมีอรรถรสของผู้อ่านเมื่อได้อ่านงานแปลชิ่นนั้น
สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งหมด
การแปลเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความรู้หลายด้าน
ซึ่งความรู้หลายด้านนั้นก็คือ ความสามารถในการสร้างสรรค์งานแปลให้มีความน่าสนใจ และความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ทางภาษาต้องแม่นยำ
รู้หลักการแปลที่ถูกต้อง จึงจะทำให้งานแปลที่ผลิตมามีความน่าสนใจและมีอรรถรสในการอ่านเพื่อทำให้ผ่านอ่านแล้วมีความสุข
Homework 1
จงแปลประโยคต่อไปนี้
1.
First year students have student
English for at least 10 years.
-
นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งเคยเรียนอังกฤษมาแล้วอย่างน้อยสิบปี
2.
An accident took place when the
plane was flying above a paddy field.
-
ตอนที่เครื่องบินกำลังบิยอยู่เหนือทุ่งนาได้มีอุบัติเหตุที่ตำแหน่งนั้น
3.
The truck driver was unidentified.
-
คนขับรถที่ไม่ประจำทาง
4.
Tomorrow I' ll go out of town.
-
วันพรุ่งนี้ฉันจะออกไปข้างนอกเมือง
5.
Yesterday it rained hard.
-
เมื่อวานนี้ฝนตกอย่างหนัก
6.
We invited him to give a lecture
over here.
-
เราเชิญให้เขามาบรรยายที่นี่หลายครั้งแล้ว
7.
I used to study at a boarding
school.
-
ฉันเคยเรียนโรงเรียนประจำมาแล้ว
8.
Have you eaten?
-
คุณรับประทานอาหารแล้วหรือยัง?
9.
I' am still doing my homework.
-
ฉันกำลังทำการบ้านอย่างตั้งใจ
10.
He always teases me.
-
เขาหยอกล้อฉันเสมอ
11.
I always get wrong answers.
-
ฉันมักจะได้รับคำตอบที่ผิดเสมอ
12.
I was about to ask you about that.
- ฉันมีเรื่องที่จะถามเธอเกี่ยวกับสิ่งนั้น
- ฉันมีเรื่องที่จะถามเธอเกี่ยวกับสิ่งนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น