วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กลวิธีการสอนภาษาอังกฤษ

Larning Log 16
30 10 58 เวลา 13.00 – 14.30 )
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม
                
                   
 กลวิธีการสอนภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันนั้น  มีการจัดการเรียนการสอนที่หลายรูปแบบ  หลากหลายสื่อการสอน  ซึ่งกลวิธีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษนั้นที่มีความหลากหลายจะความสามารถช่วยเพิ่มความกระตุ่นและความน่าสนใจให้กับการกระบวนการเรียนการสอนนั้น  พร้อมทั้งจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เรียนที่มีความต้องการที่จะเรียนพร้อมทั้งเปิดใจเปิดโลกทัศน์พร้อมการเรียนรู้  ดังนั้นหน้าที่ของครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษคือการสร้างสรรค์กระบวนการเรียนรู้และสื่อการสอนให้มีความน่าสนใจ  พร้อมทั้งสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดจากสื่อการสอนชิ้นนั้นๆ  ซึ่ง  ผศ. ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  ได้มีการแนะนำว่า  ควรมีการจัดการเรียนการสอนภาษาในรูปแบบของเรื่องราว  เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจดจำความรู้ด้วยดี  ซึ่งอาจารย์ได้แนะนำพร้อมทั้งให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้ลงมือปฏิบัติพร้อมกันมีดังนี้  คือ  การเรียนการสอนโดยการใช้เพลงและให้ลงมือปฏิบัติซ้ำๆหลายๆครั้ง  ต่อมาคือการต่อเรื่องราวที่ละคนเพื่อให้ได้เรื่องหนึ่ง  หลังจากนั้นนำเรื่องราวมาสร้างเป็นจินตนาการรูปภาพพร้อมทั้งสรุปใจความสำคัญของเรื่องงนั้น

วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21

Learning Log 15
( 30 / 10 / 58 เวลา 09.00 12.00 )
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม

                สำหรับศตวรรษที่  21 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าไปหลายด้าน  เช่น  ด้านการศึกษา  ด้านการสื่อสาร  ด้านการแพทย์   ด้านวิทยาศาสตร์  และด้านอื่นๆ  อีกมากมาย  ซึ่งด้านที่มีความจำเป็นต่อครูนั่นคือด้านการศึกษา  ซึ่งจะมุ่งประเด็นสำคัญไปที่วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่  21 ซึ่งเป็นศตวรรษที่มีความเจริญก้าวหน้าทุกๆด้าน  ซึ่งจะให้ความรู้โดย  ผศ. ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  ในหัวข้อวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่  21  โดยในหัวข้อจะมีประเด็นที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้  การเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีต  การเรียนการสอนในศตวรรษที่  21  กลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน  ซึ่งแนวการสอนจะแบ่งได้  4  ขั้นตอนดังนี้  คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์   แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่แบบบรูณาการเนื้อหาและภาษา

เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ



สิ่งที่ได้เรียนรู้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ
เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
Learning  Log  14
(29/10/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม(เวลา  13.00 – 16.00)

การสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ เป็นการสอนที่มีการสอนหลากหลายรูปแบบที่สามารถนำมาเป็นเทคนิคในการสอนที่หลากหลายสามารถนำมาปรับใช่สำหรับการสอนภาษาอังกฤษ ในห้องเรียน ปกติซึ่งปัจจุบันมีกลวิธีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่หลากหลายสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน และสร้างแรงกระตุ้นในการอยากที่จะเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเรียนรู้มีหลากหลาย วิธีการสอนที่จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านเกมส์ กิจกรรม ซึ่งมีการสอนภาษา ดังนี้ การสอนคำศัพท์ การสอนออกเสี่ยง การสอนการแสดง Role  play การเรียนรู้ culture (วัฒนธรรมภาษา) การเรียนรู้เรียงสำนวนภาษาอังกฤษ ซึ่งก่อนอื่นที่จะออกแบบบทเรียนที่ดีนั้น ครูควรมีทัศนคติของผู้เรียนต่อภาษาอังกฤษ และต่อครูผู้สอนภาษาอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นครูผู้สอนภาอังกฤษ ควรตระหนักและออกแบบ บทเรียนเพื่อเอื้อให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาอังกฤษไปใช่ได้จริง และให้นักเรียนได้ฝึกจากสถานการณ์จริง

การเสวนาวิชาการงานวิจัย หัวข้อ Beyond Language Learning

Learning Log 13
( 29/10/58  เวลา 09.15-12.00 น. )

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณะการทักษะซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านทักษะภาษอังกฤษ เพื่อการร่วมร่วนกันสร้างสรรค์ผลิตสิ่งดีๆเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนภาษาอังกฤษ  ซึ่งในยุคโลกปัจจุบันจะเป็นยุคที่ครูหมดภาวะการแข่งขันกันแล้ว  แต่จะเป็นยุคของการร่วมมือกันพัฒนา สร้างสรรค์ พร้องทั้งสรรค์สร้างทักษะทุกๆด้านไปสู้โลกอนาคต ซึ่งตัวผู้เรียนนั้นหรือผู้พัฒนานั้นจะต้องเป็นได้ทั้งผู้นำ  ( Leader ) และผู้ตาม ( Follower ) พร้อมที่จะรับมือทุกสถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งดังนั้นต่อไปนี้จะเป็นการกล่าวถึง การเสวนาวิชาการงานวิจัย หัวข้อ Beyond Language Learning โดย ดร. สุจินต์ หนูแก้ว , อาจารย์สุนทร บุญแก้ว และ ผศ.ดร. ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ

ฝึกทักษะการฟัง โดยบทเพลงที่มีชื่อว่า Cater 2 u ,Do somethin’

Learning Log 11
(13/10/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในยุคที่ภาษาอังกฤษมีความเฟื่องฟูนั้นได้มีการเกิดขึ้นของแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษและยังมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษทั้งในระบบและนอกระบบและยังมีสื่อการเรียนรู้อื่น ๆ อีกมากที่สามารถเสริมความรู้ทางด้านวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งโปรแกรมอินเตอร์ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ตได้มีการเปิดโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับทุกคนหรือทั่วไปที่มีความสนใจในเรื่องของวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทุกคนได้ฝึกฝนทักษะทางด้านภาษาอังกฤษที่หลากหลาย และดังนั้นเพื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีควรมีกลยุทธ์ในการเรียนทักษะภาษาอังกฤษด้วยทั้ง 10 องค์ประกอบเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเข้าใจและแท้จริง เพราะการเรียนรู้ภาษาที่ดีนั้นคือการฝึกพฤติกรรมการใช้ภาษาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จากข้อมูลแหล่งข้อมูลที่มีอยู่จนกระทั่งผู้เรียนสามารถนำทักษะที่ฝึกฝนมาใช้ได้จริงอย่างธรรมชาติและถูกต้องอย่างชำนาญ ดังนั้น ดิฉันจึงต้องมีการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อจะได้นำความรู้ ความสามารถมาใช้ในการเรียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกทักษะการฟัง จากบทเพลงที่มีชื่อว่า HOME , อ่านวรรณคดี Eighteenth century prose

Learning Log 10  ( 06.10.58 )
·       สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน

ในยุคนี้เป็นยุคที่ภาอังกฤษกำลังเฟื่องฟู เนื่องจากได้รับให้เป็นภาษาที่สอง ที่ทั่วโลกจะต้องใช้ภาษาในการสื่อสาร จึงทำให้มีการจัดการเรียนการสอนในภาษาอังกฤษในระบบและนอกระบบที่หลายหลาย ดังนั้นการฝึกฝนทักษะภาอังกฤษ จึงสามารถศึกษาได้หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับทุกคนหรือบุคคลทั่วไปได้เรียนภาษาอังกฤษได้ ทั้งนี้เพื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดี ควรมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาทั้ง 10 องค์ประกอบ เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง เพราะการฝึกทักษะทางภาษาของผู้เรียน ก็คือการฝึกพฤติกรรมการใช้ภาษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากข้อมูลความรู้ทางภาษาของผู้เรียนจนสามารถนำทักษะที่ฝึกฝนมาใช้ได้จริงอย่างธรรมชาติและถูกต้องคล่องแคล่ว ดังนั้นดิฉันจึงต้องมีการฝึกฝนทักษะทางภาษาอังกฤษ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อจะได้นำความรู้ ความสามรถมาใช้ในการเรียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกทักษะการฟังจากบทเพลงที่มีชื่อว่า The day you went away , My happy ending

Learning Log 9
(29/09/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน

                ในยุคที่ภาษาอังกฤษนั้นกำลังเฟื่องฟูมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระบบที่หลากหลายแล้วนั้น ยังมีสื่ออื่นๆอีกมากมายที่มีภาษาอังกฤษรวมอยู่ด้วย และยังมีโปรแกรมอินเตอร์ที่ใช้ภาษาอังกฤษด้วยในการเรียนการสอน ทั้งนี้นอกจากการเรียนการสอนในห้องเรียนเราต้องศึกษาค้นคว้าภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อให้เราเองเก่งภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษานอกระบบที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับทุกตนหรือบุคคลทั่วไปได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยทั้งนี้เพื่อการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีควรมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาทั้ง 10 องค์ประกอบ เพื่อก่อเกิดการเรียนรู้ภาษาอย่างแท้จริง เพราะการฝึกทักษะทางภาษาของผู้เรียนก็คือการฝึกทักษะพฤติกรรมการใช้ภาษาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งอีกจากข้อมูลความรู้ทางภาษาของผู้เรียนจนสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องคล่องแคล่วนั่นเอง ดั้งนั้นดิฉันจึงจะต้องมีการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อที่จะได้นำความรู้ความสามารถมาใช้ในการเรียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การลดรูปของ Adverb clause

Learning log 9
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
            ไวยากรณ์ (Grammar ) เป็นพื้นฐานหลักหรือเรียกได้ว่าเป็นการเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของสำหรับเรื่องไวยากรณ์นั้นจะเป็นตัวเชื่อมโยงลงไปสู่การแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ซึ่งการแปลประโยคให้มีภาษาที่สวยงามมีความสละสลวยได้นั้น มีความจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง Adverb  clauseไวยากรณ์พื้นฐานที่ดิฉันไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับหน้าที่ ประเภทของ Adverb clause มาเชื่อมโยงการแปลเพื่อการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่ควรแปลให้ดีและเมือ่แปลงานออกมาแล้วจะได้ภาษาสละสลวยและผู้อ่านสามารถอ่านแล้วเกิดความประทับใจในการอ่านงานแปลชิ้นนั้นๆอย่างมีความสุขและมีความประทับใจ ดังนั้นในคาบเรียนวิชาการแปลจึงได้มีการจัดการเรียนรู้แบบการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีการสรุปประเด็นความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

ฝึกทักษะการฟังจากบทเพลงที่มีชื่อว่า Somewhere only we know ,Bad boy

Learning Log 8
(22/09/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
               
                ในยุคที่ภาษาอังกฤษนั้นกำลังเฟื่องฟู มีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระบบที่หลากหลายแล้วนั้น ยังมีสื่ออื่น ๆ อีกมากมายที่มีภาษาอังกฤษร่วมอยู่ด้วยและยังมีโปรแกรมอินเตอร์ ที่ใช้ภาษาล้วนในการเรียนการสอน ทั้งนี้นอกจากการเรียนการสอนในห้องเรียนเราต้องศึกษาค้นคว้าภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพ่อให้เราเองยิ่งเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษานอกระบบที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษผ่านทางวิทยุโทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับทุกคนหรือบุคคลทั่วไปได้เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยทั้งนี้เพื่อการเขียนภาษาอังกฤษที่ดีควรมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาทั้ง 10 องค์ประกอบเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ภาษาอย่างแท้จริง  เพราะการฝึกทักษะทางภาษาก็คือการฝึกพฤติกรรมการใช้ภาษาซ้ำแล้ว ซ้ำอีก หากข้อมูลความรู้ทางภาษาของผู้เรียนจนสามารถสื่อสารได้ถูกต้องคล่องแคล่วนั่นเอง ดังนั้น ดิฉันจึงจะต้องมีการงฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษทั้งฟังพูดอ่านเขียนเพื่อจะได้นำความรู้ความสามารถมาใช้ในการเรียนและการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีคุณภาพ

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

learning log 8 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

Learning Log 8
(6/10/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
               
                การแปลงานงานแปลภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาไทยนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับ ไวยากรณ์ (Grammar) ซึ่งสำหรับวิชาภาษอังกฤษนั้นไวยากรณ์ได้เปรียบเสมือนกระดูกสันหลัง ที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งไวยากรณ์นั้นจะมีประโยชน์ต่อการแปรภาษาอังกฤษ เพราะเป็นการเชื่อมโยงไวยากรณ์สู่การแปลภาษาอย่างมีหลักการ มีภาษที่สละสลวย และภาษที่ชัดเจนเข้าใจความหมายได้ง่ายและถูกต้อง ดังนั้นในส่วนต่อไปนี้เราจะกล่าวถึง Noun clause เราจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับลักษณะของ noun clause และมีกี่แบบ โดยทั่วไปของนามานุประโยคในภาษาอังกฤษ เราสามารถนำความรู้เกี่ยวกับนามานุประโยค (noun clause) มาเชื่อมโยงไปสู่การแปลภาษาอังกฤษภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่ควนแปลให้น่าอ่าน และเมื่อแปลออกมาแล้วจะได้ภาษาสละสลวยและผู้อ่านสามารถอ่านแล้วเกิดความประทับใจในการอ่านงานแปลชิ้นนี้อย่างมีความสุขและประทับใจ

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

English through films เรื่อง Frozen

Learning Log 7
15 08 58 เวลา 13.00 – 14.30 )
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
                
               การพัฒนาตนเองให้มีความรู้ในเรื่องของศาสตร์และศิลป์ในวิชาภาษาอังกฤษนั้นเป็นการพัฒนาที่ต้องฝึกความอดทนเป็นอย่างมากเนื่องจากความอดทนต่อการเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดและไม่เคยชินในชีวิตประจำวันนั้นเป็นไปได้ยากที่ผลลัพธ์จะออกมาทางที่ดี  ซึ่งดิฉันเป็นคนในคนหนึ่งที่รักและชอบในวิชาภาษาอังกฤษ  อยากจะฝึกพัฒนาตนเองให้มีความสามารถและความรู้ในสิ่งที่ตนเองรัก  ซึ่งการพัฒนาสิ่งที่ดิฉันชอบนั้นจึงเริ่มจากฝึกทักษะการฟังและการอ่านโดยการดูภาพยนตร์  ซึ่งการดูภาพลและฟังด้านมากมาย  เนื่องจากเรามีความรู้เชิงวัฒนธรรมของกันและกันน้อย  เราไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อได้จึงทำให้เราเกิดการยอมแพ้  และนี่คือเหตุผลสำคัญเลยที่ทำให้การพัฒนาทักษะการฟังไม่ประสบผลสำเร็จ  แต่เมื่อเรารู้เหตุผลแล้วนั้นเราควรที่จะไม่ยอมแพ้และทำความเข้าใจต่ออุปสรรคทั้งหมดเพื่อนำมาเป็นแรงกดดันเพื่อสร้างกำใจในการฝึกทักษะการฟังจากการดูภาพยนตร์

learning log 7 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

                           
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
 Learning Log 7  ( 22.09.58 )
·       สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน
การแปลงานแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยนั้น มีความจำเป็นที่ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับ ไวยากรณ์ (Grammar)  ซึ่งวิชาภาษาอังกฤษนั้น ไวยากรณ์นั้นเปรียบเสมือน กระดูกสันหลังที่เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ  ซึ่งการแปลประโยคให้มีภาษาที่สละสลวยได้นั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ conditional sentence  (ประโยคเงื่อนไข )  เพราะการแปลประโยคเงื่อนไขให้มีภาษาที่สละสลวย ภาษที่ชัดเจนนั้น ดั้งนั้นเราต้องรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของประโยคเงื่อนไข และมีกี่แบบโดยทั่วไปของประโยคเงื่อนไขในภาษาอังกฤษ  เราจะสามารถนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องประโยคเงื่อนไขเชื่อมโยงการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ที่ควรแปลให้ดี  และเมื่อแปลออกมาแล้วจะได้ภาษาที่สละสลวย และผู้อ่านสามารถอ่านแล้วเกิดความประทับใจในการอ่านการแปลชิ้นนั้นอย่างมีความสุขในการอ่านและมีความประทับใจ  ดังนั้นสิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนประโยคเงื่อนไข (conditional sentence )สามารถสรุปใจความสำคัญและประเด็นความรู้ที่เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกับการแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย

Reading for main idea : Main idea

Leaning log 6
1/095/8
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน
                การเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นมีแหล่งที่จะให้เรียนรู้เกี่ยวกับภาอังกฤษมากมายสามารถฝึกได้ด้วยตนเองทุกทักษะ เช่น ทักษะการฟังสามมารถฝึกจากการฟังผ่านวิดีโอได้เช่นเดียวกันกับทักษะการฟัง ส่วนทักษะการอ่านสามารถฝึกการอ่านได้จากบทความภาษาอังกฤาพร้อมทั้งกบการฝึกทักษะการเขียนด้วยการตอบคำถามจากบทความภาษาอังกฤา ซึ่งก่อนที่เราสามารถอ่านบทความได้นั้น เราจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Main idea  การอ่านแบบ Skiming และ scaning ก่อนเราจะฝึกทักษาะการอ่านได้อย่างมีเหตุผลนั้นเราต้องรู้จักวิธีการอ่านอย่างมีเหตุมีผลตามหลักการอ่านจับใจความสำคัญ

ฝึกทักษะการอ่าน วรรณคดีอังกฤษ Twentieth-Century Novels

 ดิฉันได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับวรรณคดีอังกฤษ โดยบทที่ดิฉันอ่านนั้นชื่อว่า Twentieth-Century Novels โดยจะมีนักแต่งนิยายในศตวรรษที่ 20 จำนวน 11 คน  โดยมีชื่อว่า E.M. Forster , H.G. well, Somerset Mangham, D.H.Lawraence, James joyce, William golding, George orwell, Arthur c. clark, Jopeph Conrad, Robert Louis Stevenson, Thomas hardy. ซึ่งนักแต่งนึงนิยายทั้ง 11 คนนรี้ จะมีลักษณะของการเขียนนวนิยายที่แตกต่างกันจนทำให้เกิดงานเขียนนวนิยายที่น่าสนใจมาให้อ่านจนน่าประทับใจจนถึงปัจจุบัน ซึ่งศตวรรษที่ 20 นี้จะเป็นรูปแบบการเขียนที่มีรูปแบบของการสะท้อนสภาพสังคมแบบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากช่วงสงครามโลก

learning log 5 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

Learning Log 5 (01.08.58)
·       สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกชั้นเรียน

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นถือว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นการศึกษาภาษาอังกฤษที่ไม่จำกัดอยู่ในเฉพาะตำราเรียนและห้องเรียน ซึ่งการเรียนภาษาอังกฤษภายใต้สภาวะแวดล้อมรอบข้างที่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษหรือสนทนาภาษาอังกฤษกับเรา เราจึงต้องเปลี่ยนความพยายามโดยการหมั่นฝึกฝน เพียรพยายามวันละนิด แต่ต้องมีความสม่ำเสมอ ดังนั้นเมื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดในห้องเรียน ดิฉันจึงคิดว่าดิฉันควรเริ่มฝึกฝนภาษาอังกฤษจากสิ่งใกล้ตัวเรา สิ่งที่เราสามารถฝึกฝนได้ตามระดับความรู้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งตัวดิฉันเองได้ฝึกทักษะการฟังและการพูด จากสื่อเพลงและวีดีโอที่สามารถหาได้ง่ายจากอินเทอร์เน็ต และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด  ดังนั้น การฝึกฝนควรเริ่มได้เลยหากใจพร้อม  ซึ่งทักษะการฟังและการพูดคือทักษะที่เป็นจุดด้อยของดิฉัน  ดิฉันจึงเริ่มพัฒนาตัวเองจากจุดด้วยจุดนี้

เทคนิคการเดินประโยคสำหรับการแปล

Learning Log 4 (25/08/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกชั้นเรียน

                      สำหรับสิ่งที่เรียนรู้นอกชั้นเรียนนั่นจะเป็นการศึกษาค้นหาความรู้และเพิ่มความสามารถทักษะด้านการเขียน (writing) เนื่องจากงานแปลนวนิยายนั้นทำให้ดิฉันพบข้อบกพร่องของตนเองในการเรียนแปลนวนิยายของดิฉัน ฉันรู้คำศัพท์และสามารถเรียงประโยคให้สวยมีความไพเราะและเขียนแปลความนวนิยายให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายได้ ดังนั้นทำให้ดิฉันคิดว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่านการแปลนวนิยายได้อย่างเข้าใจ จึงทำให้ดิฉันอยากที่จะแปลนวนิยายออกมาให้ดี ดิฉันจึงคิดว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่านการแปลนวนิยายได้อย่างเข้าใจจึงทำให้ดิฉันแปลนวนิยายออกมาให้ดี ดิฉันจึงคิดว่ามีความจำเป็นต้องศึกษาการแปลภาษาอังกฤษเป็นเป็นภาษาไทย การแปลภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมากในการแปลภาษา คือ เทคนิคการเดินประโยคสำหรับการแปล (การแปลงอย่างเป็นระบบ) จะเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ประโยคว่าแต่ละประโยคมีส่วนประกอบ ประธาน ส่วนประธาน เพื่อทำให้การแปลเกิดความไพราะเพราะพริ้งและการแปลให้ไพเราะนั้นจะต้องอาศัยประสบการณ์การแปลบ่อยๆ ด้วย และจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าหากเรามีความรู้วิธีเดินประโยคแล้วเราสามารถแปลเอกสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นสรุป ได้ว่าการแปลอย่างเป็นระบบจะต้องอาศัยเทคนิคการแปลหลายๆอย่างเพื่อทำให้ได้งานแปลที่ดีที่มีคุณภาพ
                  เทคนิคการแปลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้เริ่มเรียนการเปลี่ยนแปลจะต้องอาศัยขั้นตอนการแปลในส่วนแรกคือ การหาส่วนประธานและแปลส่วนประกอบ เราจะแปลหรือเขียนแปลได้ดีจะต้องมีความรู้เรื่องโครงสร้างไวยากรณ์เป็นอย่างดี ไวยากรณ์จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์และแยกแยะประโยคได้ เมื่อสามารถแยกแยะและวิเคราะห์ประโยคได้ก็จะสามารถร็ได้ว่าประโยคไหนควรแปลก่อน แปลหลัง และแต่ละส่วนจะมีความสัมพันธ์กัน จะทำให้แปลสละสลวย และส่วนประธานอาจเป็นคำศัพท์คำเดียวหรือหลายคำก็เป็นได้ ถ้าส่วนประธานเป็นคำศัพท์คำเดียวหรือหลายคำก็เป็นได้ ถ้าส่วนประธานเป็นคำศัพท์คำเดียวก็หมายความว่าคำศัพท์ คำนั้นเป็นทั้งส่วนประธาน และตัวประธานในตัวเดียวกัน ในกรณีนี้ให้แปลประธานได้ทันที แต่ถ้าส่วนประธานประกอบด้วยคำศัพท์หลายคำศัพท์ผู้เรียนต้องกำหนด 1) ตัวประธานและ 2)ส่วนขยายประธานเพื่อหาตัวประธานได้แล้ว ค่อยลงมือแปลตามลำดับของคำ โดยสรุปว่าควรเริ่มแปลจากตัวประธานและส่วนขยาย แต่บางครั้งการแปลแบบนี้อาจจะทำให้งานแปลออกมาแบบทื่อๆ ตรงไปตรงมา ซึ่งมีผลให้การแปลไม่น่าอ่าน

learning log 4 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

การสอนแบบ Teach less ,Learn more

Learning Log 3 (18 /08/58)
สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกชั้นเรียน
วิธีการสอนในยุคปัจจุบันนั้นมีหลากหลายวิธีมากขึ้นซึ่งวิธีการสอนนั้นจะพัฒนาไปตามพัฒนาการสอนของผู้เรียน  ดิฉันในฐานะนักศึกษาครุศาสตร์ที่ในอนาคตอีก2ปีจะไปเป็นผู้สอน จึงว่าเป็นต้องเรียนรู้วิธีการสอนไว้หลายรูปแบบเพื่อพร้อมกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพที่แท้จริงและสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้และในปัจจุบันนี้ประเทศไทยกำลังพบปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่ง คือการศึกษาซึ่งวิธีการสอนของประเทศไทยนั้นจะมีแนวทางการสอนที่สืบเนื่องกันมานานมากทำให้รูปแบบการสอนส่วนมากก็จะเป็นวิธีที่ครูป้อนข้อมูลให้นักเรียนด้านเดียว ทำให้นักเรียนอาจขาดทักษะการคิดและการเรียนรู้ด้วยตนเองไปได้ และวิธีการสอนนั้นก็ไม่สามารถพัฒนาให้นักเรียนก้าวไปได้ไกลกว่าเดิมเท่าใดนัก และเมื่อดิฉันได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนแบบใหม่นั้นคือ การสอนแบบ Teach less ,Learn more  จากอาจารย์ อนิวุธ ชมสวัสดิ์ว่าการสอนแบบนี้ได้ใช้ในประเทศสิงคโปร์ และในปัจจุบันนี้ประเทศสิงคโปร์ได้มีการพัฒนาคุณภาพทางด้านการศึกษาไปได้ไกลมากมีคุณภาพที่ดี และนี่ก็คือเหตุผลที่สำคัญที่อนาคตครูไทยจำเป็นต้องศึกษาวิธีการสอนนี้เพิ่มเติม

Learning log 3 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน


สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

          การเรียนภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องอาศัยหลักการที่ว่า Teach less Learn more ซึ่งหมายความว่า สอนให้น้อย และเรียนรู้ให้มาก ซึ่งในทางตรงกันข้ามกันนั้น ประเทศไทยจะเน้นไปยังการสอนที่มาก และเรียนรู้น้อยซึ่งแตกต่างกับประเทศสิงคโปร์ นี่อาจจะเป็นประเด็นหนึ่งก็เป็นไปได้ที่ทำให้การศึกษาทางด้านภาษาอังกฤษของเด็กไทยมีการพัฒนาที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆในแถบเอเชีย ดังนั้นการจะเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดีนั้นจะต้องมีการเรียนรู้ สามด้านทางภาษาอังกฤษ คือ  ด้านที่หนึ่งคือ Syntax การแต่งประโยค ด้านที่สองคือ Phonology  จะว่าด้วยการออกเสียงให้ถูกต้อง ส่วน Semantic จะว่าด้วยการแปลความหมาย ซึ่งการเรียนรู้ที่สำคัญต่อวิชาการแปลนั่นคือ คือ  Syntax คือ การแต่งประโยค และ Semantic จะว่าด้วยการแปลความหมาย ซึ่งการแต่งประโยคและการแปลความหมายนั้นให้ถูกต้องนั้นต้องอาศัยหลักความรู้ในเรื่องของไวยากรณ์เป็นหลักสำคัญ ดังนั้นพื้นฐานด้านไวยากรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในการเรียนการแปลให้ดีและถูกต้องนั้นคือ Tenses ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่ากระทำอะไรและเวลาใดเพื่อให้ได้การแปลที่ถูกต้องและมีภาษาที่ชัดเจนเข้าใจความหมายได้ง่าย

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Learning log 2 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในเเละนอกห้องเรียน

สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียนและสิ่งที่ได้เรียนรู้นอกชั้นเรียน

จากการเรียนวิชาการแปล 1 ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.. 2558 สามารถสรุปประเด็นการเรียนรู้ได้ 2 ประเด็น คือ สิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั้นเรียน และ สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกชั้นเรียน
                สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียนในคาบนี้เป็นการมองย้อนอดีตเพื่อทบทวนความรู้ ,พฤติกรรมของตนเออง และวิธีการสอนของครูที่ตนประทับซึ่งทั้งสามประเด็นนี้จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า เรานั้นจะต้องมีการเรียนรู้อย่างไรในอนาคตพร้อมทั้งอาจารย์ผู้สอนการแปลจะสอนอย่างไรเพื่อให้เรามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากเดิมและควรพัฒนาตนอย่างไรให้มีความรู้ที่แท้จริงโดยลักษณะกระบวนการของอาจารย์จะให้นักศึกษานำเสนอความคิดของตนเองผ่านการพูดซึ่งพูดโดยใช้ความรู้สึกซึ่งไม่มีถูกไม่มีผิดเพราะเป็นคำถามปลายเปิด

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Learning Log 1 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในเเละนอกห้องเรียน

Learning Log 1

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียน

                การเรียนรู้ที่ดีนั้นจะต้องมีขั้นตอนวิธีการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนจึงมี
 
  I + 1 =  comprehensible input


                ทฤษฎีข้างต้นนี้เป็นการสอนแบบนี้คือการป้อนข้อมูลเพื่อให้นักเรียนเข้าใจนั่นคือการที่คุณต้องทราบความรู้เดิมของนักเรียน แล้วนำความรู้เดิมของนักเรียนมาพัฒนาโดยวิธีการสอนของครูโดยการเพิ่มระดับความยากของเนื้อหาที่จะสอนเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ในสิ่งที่ยากกว่าจะทำให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น
                

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความแตกต่างทางโครงสร้างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษที่มีผลต่อการแปล

ความแตกต่างทางโครงสร้างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษที่มีผลต่อการแปล

               โครงสร้าง ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า  ( Structure ) มีความหมายหลายความหมาย ซึ่ง สามารถสรุปความหมายได้ว่า ภาษาที่มีโครงสร้าง หรือ ภาษาประกอบด้วยส่วนต่างๆมากมาย และส่วนประกอบเหล่านี้จะเรียงตัวกันอย่างเป็นระบบ
               โครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย เราสามารถพูดประโยคที่มีใจความสำคัญและสื่อสารกันรู้เรื่อง เพราะเรารู้และได้เข้าใจมีโครงสร้างของภาษานั้นจะเป็นตัวที่บอกเราว่าจะนำคำศัพท์นี้มาเรียนรู้มาประกอบกันหรือเรียงกันอย่างไรเพื่อที่จะทำให้เราพูดแล้วเข้าใจความหมายที่เราพูดในการใช้ภาษาใดก็ตามถ้าเราไม่รู้เราไม่เข้าใจในโครงสร้างของภาษาในการสื่อสารนั้นก็คือ การสื่อสารที่ล้มเหลว คือ การฟัง หรืออ่านไม่เข้าใจ และพูดหรือเขียนให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้
                จะเห็นได้ว่าผู้แปลจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของประโยคได้โดยจะเปรียบเทียบให้เห็นประเภทของไวยากรณ์ที่สำคัญและโครงสร้างของประโยคต่างๆในการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อให้สามารถนำไปใช้เป็นหลักหรือเป็นแนวทางในการไปในอนาคตได้

บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล

บทที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล

                ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง ดังนั้นการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการแสดงและอธิบายความหมาย เพื่อการโต้ตอบระหว่างมนุษย์ทั่วโลก และวิวัฒนาการที่มีความก้าวหน้าขึ้น คนต่างชาติต่างภาษาในโลกได้มีการสื่อสารกัน การแปลจึงมีความสำคัญมาก เพราะบางคนอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องมีการติดต่อโดยใช้ภาษาต่างประเทศแต่ตนเองนั้นมีความรู้ด้านนี้ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้แปล นอกจากนี้ยังมีการแปลที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองอีกด้วย เช่น การแปลนวนิยายและสารคดีบันเทิงต่างๆ